วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อัดคลังห้ามเบิกจ่ายสมุนไพรนอกยาหลัก

แฉ รองปลัดฯคลัง ส่งเป็นหนังสือเวียนถึงหน่วยงานราชการ ระบุว่า การเบิกจ่ายค่ายาสมุนไพรที่อยู่นอกรายการบัญชียาหลักแห่งชาติถือว่าเป็นการ ผิดระเบียบตามที่กฎหมายกำหนด ชี้เงื่อนงำอคติเอื้อยาแผนปัจจุบัน จี้ สธ.เบรก-ร้องนายกฯ เคลียร์...

ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพรแห่งประเทศไทย แถลงข่าวคัดค้านแนวทางการปฏิบัติที่กระทรวงการคลังห้ามไม่ให้ ข้าราชการเบิกจ่ายการนวดบำบัดและยาสมุนไพรนอกบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยนายวีรพงษ์ เกรียงสินยศ ผู้จัดการมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ออกแนวทางการปฏิบัติและซ้อมความเข้าใจในการเบิกจ่ายเงิน สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลงนามโดยนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รองปลัดกระทรวงการคลัง ส่งเป็นหนังสือเวียนถึงหน่วยงานราชการ โดยระบุว่า การเบิกจ่ายค่ายาสมุนไพรที่อยู่นอกรายการบัญชียาหลักแห่งชาติถือว่าเป็นการ ผิดระเบียบตามที่กฎหมายกำหนด และห้ามเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าวและห้ามสถานพยาบาลออกหนังสือรับรองกรณีใช้ ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป แนวปฏิบัตินี้ทำให้ ไม่สามารถเบิกจ่ายยาสมุนไพรนอกบัญชียาหลักแห่งชาติได้ เป็นการเอื้อยาแผนปัจจุบัน เท่ากับมีเงื่อนงำหรืออคติกับยาสมุนไพร กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ควรทำหนังสือไปยังกระทรวงการคลังเพื่อทัดทานหรือชะลอการบังคับใช้แนวทาง ปฏิบัติออกไป รวมทั้งเครือข่ายฯ จะส่งข้อมูลเหล่านี้ให้กับนายกรัฐมนตรีและกำลังหารือว่าจะฟ้องศาลปกครองหรือ ไม่

ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคม จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เครือข่ายฯมีข้อเสนอ 4 ข้อ คือ 1.ในระหว่างที่ยังไม่มีเภสัชตำรับโรงพยาบาลด้านยาจากสมุนไพร ต้องยกเลิกหรือเลื่อนการใช้แนวทางปฏิบัตินี้ออกไป 2.ให้มีการประกาศใช้ข้อกำหนดกับยาแผนปัจจุบันและยาจากสมุนไพร โดยใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติและเภสัชตำรับโรงพยาบาลของยาทั้ง 2 แผน อย่างเท่าเทียมกัน 3.นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เพื่อตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาจากสมุนไพรจัดทำเภสัชตำรับโรงพยาบาลด้าน ยาจากสมุนไพรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ 4.ให้นายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารงานของ รมว.การคลัง และ รมว.สาธารณสุข ให้ส่งเสริมและพัฒนาระบบการแพทย์แผนไทย ไม่ใช่ทำลายภูมิปัญญาไทย.

ทีมข่าวการศึกษา
ไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น